วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2558

Subaru Impreza

ซูบารุ อิมเพรสซ่า (Subaru Impreza) เป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็ก (Compact Car) ผลิตโดยซูบารุ เริ่มผลิตและเปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคมปี พ.ศ. 2535 เพื่อแข่งขันกับรถยนต์ Compact Car ยอดนิยมของญี่ปุ่นและของโลก เช่น Toyota Corolla ,Nissan Sunny ,Honda Civic ,Mitsubishi Lancer และ Mazda Familia หรือ 323 เป็นต้น โดยเข้ามาทดแทนรถ Compact Car รุ่นเก่า ซูบารุ ลีออน และซูบารุยังส่งอิมเพรสซ่าไปแข่งขันในการแข่งขันแรลลี่โลก WRC (World Rally Cross) อีกด้วยเพื่อสู้กับคู่แข่งในสมัยเดียวกัน เช่น แลนเซีย มิตซูบิชิ โตโยต้า ฟอร์ด ฯลฯ จนประสบความสำเร็จติดต่อกัน 3 ปีซ้อน (พ.ศ. 2538-2540) และได้รับถ้วยรางวัลประดับสำนักงานใหญ่ย่านชินจูกุ กรุงโตเกียวหลายครั้งอีกด้วย
อิมเพรสซ่า ถือเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของ Fuji Heavy Industry เพราะสามารถยกระดับตัวเองให้เป็นผู้ผลิตรถยนต์ระดับสากลอย่างเต็มตัวตั้งแต่เริ่มทำรถรุ่นแรกอย่างซูบารุ 1500 หรือรถที่เริ่มวางจำหน่ายเชิงพาณิชย์รุ่นแรกอย่างซูบารุ 360 ทีเดียว โดยในช่วงแรกมีให้เลือกทั้งตัวถังซีดาน 4 ประตู และสปอร์ตวากอน (หรือสเตชันวากอน) 5 ประตู ถึงแม้จะพูดได้ไม่เต็มปากว่าอิมเพรสซ่าเป็นเจเนอเรชั่นต่อมาของลีออน รถครอบครัวชื่อดัง แต่ด้วยขนาดที่ไล่เลี่ยกัน ทำให้หลายคนเข้าใจไขว้เขว และในช่วงแรกได้มีการแยกตัวถังซีดานมาโมดิฟายให้แรงกว่ารุ่นซีดานปกติ เรียกว่า WRX และถือเป็น Icon Model ทั้งในแง่ของการเป็นตัวแข่งที่ดี และตัวขายที่มีลูกค้าตอบรับในระดับใช้ได้
ปัจจุบัน ซูบารุ อิมเพรสซ่า มีวิวัฒนาการตามช่วงเวลาได้ 4 Generation (รุ่น) ดังนี้

รุ่นที่ 1 (พ.ศ. 2535-2543)
ซูบารุ อิมเพรสซ่า รุ่นที่ 1 เริ่มผลิตเมื่อปี พ.ศ. 2535 มีตัวถังคูเป้ 2 ประตู ซีดาน 4 ประตู และสปอร์ตวากอน 5 ประตู ระบบขับเคลื่อนมีทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้า และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์มีให้เลือกทั้ง 1.5 ,1.6 ,1.8 ,2.0 ,2.2 และ 2.5 ลิตร ระบบเกียร์เป็นเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด โดยในช่วงแรกก็ได้มีการเปิดตัวเวอร์ชัน WRX ซึ่งเป็นรุ่นที่ถูกโมดิฟายให้แรงกว่าปกติ มีลูกค้าให้การตอบรับในระดับใช้ได้ และยังเคยถูกส่งไปแข่งขันในระดับโลกมาแล้ว นอกจากนี้ ยังมีตัวถัง Outback Sport เนื่องจากในช่วงนั้น เป็นช่วงที่คนญี่ปุ่นนิยมรถเพื่อสันทนาการ (RV : Recreation Vehicle) กันมาก แต่ในช่วงนั้นซูบารุยังไม่มีเงินทุนมากพอที่จะพัฒนารถ SUV และ MPV เพื่อต่อกรกับบรรดาคู่แข่งในตลาดที่ต่างก็มีรถ SUV และ MPV ทำตลาด เช่น โตโยต้า ฮอนด้า นิสสัน มาสด้า มิตซูบิชิ อีซูซุและซูซูกิ มีทั้งเวอร์ชั่นอเมริกา และญี่ปุ่น แต่ไม่เคยส่งมาทำตลาดในประเทศไทย โดยเวอร์ชั่นอเมริกาจะใช้ชื่อว่า Subaru Impreza Outback Sports เปิดตัวในปี พ.ศ. 2537 ถือเป็นรถรุ่นปี 1995 และพอจะมีชาวอเมริกันหาซื้อไปใช้งานอยู่บ้าง ทำให้ซูบารุตัดสินใจทำเวอร์ชั่นญี่ปุ่นออกมาในเดือนตุลาคมปี พ.ศ. 2538 ในชื่อ Subaru Impreza Sports Wagon GRAVEL EX แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงตัดสินใจเลิกทำเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนโฉมสู่รุ่นที่ 2 ของอิมเพรสซ่าในปี พ.ศ. 2543

ในประเทศไทย บริษัท สยามซูบารุจำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของสยามกลการเคยนำเข้ามาจำหน่ายในบ้านเรา เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยนำเลกาซีรุ่น BC เข้ามาจำหน่ายในไทย แต่สามารถสร้างยอดขายได้แค่พอประมาณเท่านั้น หากไม่ทำอะไรแล้วซูบารุอาจจะต้องม้วนเสื่อกลับไปญี่ปุ่นอย่างที่เคยเป็นมาก่อน รุ่นที่นำเข้ามีตั้งแต่รุ่น 1.6 ลิตร ขับเคลื่อนล้อหน้า 90 แรงม้า ซีดาน 4 ประตู ราคา 695,000 บาท รุ่น 1.8 ลิตร ขับเคลื่อนสี่ล้อ 103 แรงม้า มีทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ และมีตัวถังซีดาน 4 ประตูและสปอร์ตวากอน 5 ประตู โดยราคาตัวถังซีดาน 4 ประตูอยู่ที่ 795,000 บาท และรุ่น WRX เทอร์โบ เครื่องยนต์ EJ20 ราคา 985,000 บาท อาจจะมองว่าไม่แพง แต่สมัยนั้น Accord รุ่นนำเข้าราคา 1.17 ล้าน ถึงแม้จะแรงและขับสนุก แต่ภายในก็ไม่ต่างจากรถบ้านธรรมดา ต่างจาก Accord ซึ่งเป็นรถราคาแพงกว่า แต่ไม่เน้นขับสนุกมากนัก อิมเพรสซ่้าที่ถูกขายออกไปส่วนมากมักจะเป็นรุ่นเครื่องยนต์ 1.6 และ 1.8 ลิตร พรีเซ็นเตอร์ในสมัยนั้นคือไตรภพ ลิมปพัทธ์ พิธีกรชื่อดังและเ้จ้าของบริษัท บอร์น แอนด์ แอสโซซิเอทด์ จำกัด ทำให้ลูกค้าซูบารุทั้งลูกค้าเก่าและใหม่ได้เซ็นใบจองเพื่อซื้อหาอิมเพรสซ่ามาขับขี่ ขายมาได้เรื่อยๆ เป็นตัวทำเงินให้กับซูบารุในไทยเรื่อยมา (ซึ่งปรากฏการณ์นี้ก็เกิดขึ้นกับ Subaru XV ในปัจจุบันเช่นกัน) ภายหลังได้มีการไมเนอร์เชนจ์ตามตลาดออสเตรเลีย ปัจจุบันยังมีให้เห็นตามท้องถนนทั่วไปอยู่เรื่อยๆ

รุ่นที่ 2 (พ.ศ. 2543-2550)

ซูบารุ อิมเพรสซ่า รุ่นที่ 2 เริ่มผลิตเมื่อปี พ.ศ. 2543 มีตัวถังซีดาน 4 ประตู และสปอร์ตวากอน 5 ประตู มีเครื่องยนต์ 1.5 ,1.6 ,2.0 และ 2.5 ลิตร ระบบเกียร์เป็นเกียร์ธรรมดา 5 และ 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ยังคงมีเวอร์ชั่น WRX และ Outback Sports โดยเวอร์ชั่น Outback Sports ดัดแปลงมาจากรุ่นสปอร์ตวากอน นำเข้าจากโรงงานในเมืองโอตะ จังหวัดกุมมะ เปิดตัวในปี พ.ศ. 2544 ในฐานะรถรุ่นปี 2002 มีการปรับโฉม Minorchange ในปี พ.ศ. 2547 และปี พ.ศ. 2548 ในฐานะรถรุ่นปี 2006 ทำตลาดจนถึงปี พ.ศ. 2550

รุ่นที่ 3 (พ.ศ. 2550-2554)

ซูบารุ อิมเพรสซ่า รุ่นที่ 3 เริ่มผลิตเมื่อปี พ.ศ. 2550 มีตัวถังซีดาน 4 ประตู และแฮทช์แบค 5 ประตู มีเครื่องยนต์ 1.5 ,2.0 และ 2.5 ลิตร ระบบเกียร์เป็นเกียร์ธรรมดา 5 และ 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 และ 5 สปีด ยังคงมีรุ่น Outback Sport และ WRX เช่นเดิม แต่เป็นครั้งแรกที่มีรุ่น XV ออกสู่ตลาด และเป็นครั้งแรกที่พลิกแนวคิดการทำอิมเพรสซ่ารุ่นนี้ โดยยุบตัวถังสปอร์ตวากอน 5 ประตูออกไป แล้วเปลี่ยนเป็นแฮทช์แบค 5 ประตู เนื่องจากที่ผ่านมา ซูบารุมุ่งเน้นทำตลาดรถสมรรถนะสูง จนกระทั่งรถยนต์แบบดั้งเดิมที่ตนเองเคยมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่บ้าง ตั้งแต่รุ่นลีออน (Leone) มาจนถึงอิมเพรสซ่ารุ่นแรกค่อยๆ หดหายไป เวลาที่ลูกค้าเข้าไปในโชว์รูมซูบารุเขาไม่ได้ซื้อรุ่นสมรรถนะดีๆ เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เมื่อมันไม่สร้างรายได้ ก็ต้องสร้างแรงจูงใจในการทำรถยนต์รุ่นมาตรฐานให้สอดรับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น น่าจะช่วยสร้างยอดขายและรายได้ให้มากกว่า ในขณะเดียวกับ ซูบารุต้องการจะขายอิมเพรสซ่าในยุโรปให้ได้มากขึ้น เนื่องจากในยุโรปยังนิยมรถแฮทช์แบคกันอยู่ แต่ซูบารุไม่เคยมีแนวคิดที่จะทำรถยนต์แฮทช์แบคขนาดกลางไปขายในยุโรปมาก่อน จะมีแต่รุ่นที่เล็กกว่าอย่าง ซูบารุ เร็กซ์ (อังกฤษ: Subaru Rex) และ ซูบารุ จัสตี (อังกฤษ: Subaru Justy) ที่เลิกขายไปแล้ว ทำให้ยากต่อการขยายตลาดไปยังยุโรป

สำหรับรุ่น Outback Sport ได้เปิดตัวในปี พ.ศ. 2550 ทำตลาดเฉพาะในอเมริกาเหนือ และยังมียอดขายและการตอบรับที่อยู่ในระดับใช้ได้ จึงมีการพัฒนารุ่นเปลี่ยนโฉมใหม่ทั้งคันแบบ Full Modelchange ของ Impreza XV ควบคู่ไปกับโครงการพัฒนารุ่นเปลี่ยนโฉมของ Impreza เมื่อปี พ.ศ. 2551 โดยระหว่างที่โครงการดำเนินไป ซูบารุตัดสินใจหยั่งเชิงตลาดด้วยการส่งเวอร์ชั่น Outback ของ Impreza Hatchback รุ่นปี 2007 - 2012 โดยเปิดตัวในงาน Geneva Motor Show ในเดือนมีนาคมปี พ.ศ. 2553 ก่อนจะนำกลับไปเปิดตัวที่ญี่ปุ่นในเดือนมิถุนายนปีเดียวกัน เพื่อชิมลางตลาดให้แน่ใจอีกครั้ง

โดยเวอร์ชั่นญี่ปุ่น มีเครื่องยนต์ให้เลือกทั้ง EJ15 บล็อก 4 สูบ Boxer DOHC 16 วาล์ว 1,498 ซีซี เชื่อมได้กับเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด และเครื่องยนต์รหัส EJ20 บล็อก 4 สูบ Boxer SOHC 16 วาล์ว 1,994 ซีซี มีเฉพาะเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดเท่านั้น ยอดขายถือว่าค่อนข้างน่าพอใจ ทำให้ FHI มั่นใจว่า โอกาสที่โครงการ XV รุ่นใหม่ซึ่งพัฒนาอยู่ จะประสบความสำเร็จมากกว่าเดิม ในตลาดที่ไกลกว่าเดิม นั่นคือ ทุกประเทศที่มี Subaru ทำตลาดอยู่จะเพิ่มมากขึ้น

รุ่นที่ 4 (พ.ศ. 2554-ปัจจุบัน)

ซูบารุ อิมเพรสซ่า รุ่นที่ 4 เริ่มผลิตเมื่อปี พ.ศ. 2554 มีตัวถังซีดาน 4 ประตู และแฮทช์แบค 5 ประตู เครื่องยนต์เป็นเครื่องยนต์ 1.6 และ 2.0 ลิตร ระบบเกียร์เป็นเกียร์ธรรมดา 5 และ 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ CVT




ที่มา
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%8B%E0%B8%B9%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B8_%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%8B%E0%B9%88%E0%B8%B2



Review/แนะนำการใช้งาน โปรแกรม 1 โปรแกรม

Ashampoo Burning Studio

โปรแกรม Ashampoo Burning Studio Free
shampoo Burning Studio Free (โปรแกรมเบิร์นแผ่น CD DVD Blu-Ray ฟรี) : สำหรับ โปรแกรมนี้มีชื่อว่า โปรแกรม Burning Studio พัฒนาโดยทีมจากบริษัท Ashampoo ประเทศเยอรมัน มันเป็น โปรแกรมไรท์แผ่นสารพัดประโยชน์ มันสามารถใช้ไรท์ได้ทั้งแผ่นซีดี (CD) แผ่นดีวีดี (DVD) และ แผ่นบลูเรย์ (Blu-ray) โดยถือเป็นโปรแกรมดีๆ อีกตัวหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะแอดมิน ผู้ดูแลเว็บ Thaiware.com เองก็ใช้ตัวนี้กันอยู่หลายคน หลายเครื่องเหมือนกัน เพราะมันฟรี และดี แถมมีขนาดเล็ก ติดตั้งง่าย ใช้งานง่าย ซึ่งโปรแกรม Write แผ่น เป็นแผ่นประเภทต่างๆ ได้หลายประเภทด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น แผ่นเพลง (Audio CD) แผ่นข้อมูล (Data CD) หรือจะใช้เพื่อในการ สำรองข้อมูล (Backup CD) หรือ สร้าง อิมเมจไฟล์ (ISO Image Files) ลงในหลายๆ แผ่น และ แผ่นหลายๆ ประเภทด้วยเช่นกัน และเวอร์ชั่นล่าสุด ทางผู้พัฒนาเขาได้เพิ่มความสามารถในการริปแผ่นซีดี หรือการเอาเพลงจากบนแผ่นซีดี มาเก็บบันทึกเอาไว้เป็นไฟล์บนเครื่องคอมพิวเตอร์เราได้อีกด้วย ก็ถือว่าเป็น โปรแกรมไรท์แผ่น อีกตัวหนึงที่น่าดาวน์โหลดลงเก็บไว้ในเครื่อง ลงตัวเดียวพอ ไม่ต้องใช้ตัวอื่นอีกแล้ว ปลอดมัลแวร์ สปายแวร์อีกต่างหาก

Program Features (คุณสมบัติและความสามารถเด่นๆ ของ โปรแกรม Ashampoo Burning Studio FREE)
  • เขียนไร้ท์แผ่น CD แผ่น DVD และ แผ่น Blu-ray ได้อย่างง่ายดาย สนับสนุนทั้งสามประเภท
  • สนับสนุนเพลงจากแบบแผ่นซีดีเพลง (Audio CD) ได้ จากไฟล์เพลงต่างๆ เช่น WAV, MP3, FLAC, WMA และไฟล์ OGG Vorbis
  • ไรท์แผ่น MP3 ได้จากไฟล์ MP3 เพื่อที่จะนำไปเปิดบนรถยนต์ หรือเครื่องเล่น MP3 ต่างๆ
  • สามารถไรท์แผ่นวีดีโอลง DVD แผ่น Video CD (VCD) หรือแผ่น Super Video CD (S-VCD)
  • สร้างอิมเมจไฟล์ (ISO Image Files) จากแผ่น CD / DVD / Blu-Ray
  • กำหนดความเร็วในการ ไรท์แผ่น CD / DVD ได้ด้วยตัวเอง หรือ ตั้งแบบอัตโนมัติ ก็ได้
  • สามารถระบุ กำหนด จำนวนสำเนา แผ่นทุกประเภท ที่จะทำการไรท์ได้ เพื่อความสะดวกรวดเร็ว ในกรณีที่ต้องการไรท์หลายแผ่น ที่มีข้อมูลเหมือนกัน ไปพร้อมๆ กัน
  • สามารถ Copy แผ่น CD เพลง หรือ VCD (Video CD) ได้อย่างง่ายดาย
  • สามารถ ลบข้อมูล ออกจากแผ่น CD-RW หรือ DVD-RW ได้
  • หลังการไรท์แผ่นเสร็จสิ้น โปรแกรมนี้มีระบบการตรวจสอบความถูกต้องของแผ่น โดยอัตโนมัติ เพื่อให้มั่นใจว่า ข้อมูลที่ไรท์ลงไป เหมือนกับข้อมูลของต้นฉบับจริงๆ ไม่ผิดไม่เพี้ยน
  • สามารถริปเพลง (CD Ripper) จากแผ่นซีดีเพลง เซฟบันทึกออกมาเป็นไฟล์ WMA และ WAV เพื่อรับฟังกันบนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่บ้าน หรือจะรวมไปฟังบนรถก็ได้
  • สนับสนุนแผ่น Blu-ray รูปแบบใหม่ ที่เก็บข้อมูลได้มากกว่า 25 GB.
สำหรับตัว โปรแกรม Ashampoo Burning Studio Free ตัวนี้ ทางผู้พัฒนา โปรแกรม (Program Developer) เขาได้แจกให้ ทุกท่านได้นำไปใช้กันฟรีๆ (FREE) ท่านไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โดยท่านสามารถที่จะ ติดต่อกับทาง ผู้พัฒนาโปรแกรมนี้ได้ผ่านทางช่องทางอีเมล์ (E-Mail) : info@ashampoo.com (ภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาเยอรมัน) ได้โดยทันทีเลย

โปรแกรมไรท์แผ่น Ashampoo Burning Studio Free


ที่มา
www.software.thaiware.com/